Sunday, April 29, 2012

Saint Seiya Omega ตอนที่5

ยามที่ท้องฟ้ามืดมิดมีเพียงแสงดาว อาจารย์เกคินำนักเรียนทั้งหมดไปcamp Cosmo Delta เพื่อฝึกเป็นเวลา2วัน ซึ่งCosmo Delta เป็นเขาสูงชัน ในการทดสอบจะต้องปีนผ่านอุปสรรคทั้งหลายไปให้ถึงยอดก่อนพระอาทิตย์ขึ้นอีกวันเพื่อที่จะผ่านการทดสอบ โดยบริเวณ Cosmo Delta นี้คอสโมจะลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อใช้พลังคอสโมทำให้ความอดทนลดลงไปด้วย การทดสอบนี้เป็นคัดตัวสำหรับ saint fight ที่จะจัดขึ้นด้วยโดยผู้ชนะใน sainit fight จะได้เป็น silver saint โคกะต้องการชนะใน saint fight เพราะโซมะบอกว่าหากชนะจะได้พบอาเธน่าด้วย ยูนะเสนอริวโฮให้จับคู่กันและริวโฮเห็นด้วย โคกะจึงเสนอโซมะให้จับคู่กันบ้าง ระหว่างนั้นมีชายชื่ออาโก้พูดหาเรื่องโซมะ ว่าไม่อยากให้โซมะอวดเบ่งเพียงเพราะมีพ่อเป็น saint แล้วบอกโคกะว่าพ่อของโซมะเคยเป็น silver saint แต่ก็ตายอย่างหมาขี้แพ้ โซมะได้ยินดังนั้นก็โกระจัดกระโดดเข้าชกอาโก้ทันที ขณะที่ทั้ง2จะสู้กันอาจารย์เกคิก็เข้ามาห้ามซะก่อน และเมื่อฟ้าสว่าง อาจารย์เกคิก็ให้ทุกคนออกตัวได้ นักเรียนต่างก็เลือกเส้นทางที่่จะใช้กันเอง ไฮดร้า อิจิ แสดงความเป็นรุ่นพี่ออกวิ่งไปอย่างรวดเร็วแต่เหมือนจะหลงทาง นักเรียนคนอื่นๆก็ทยอยหมดแรงไปทีละคน คู่ยูนะกับริวโฮ เข้าไปในถ้ำที่มีบ่อแม๊กม่าเต็มไปหมด ส่วนคู่โซมะกับโคกะเจอลำธารไหลเชี่ยวขวางทางไว้ โซมะบอกให้โคกะไปก่อน โคกะสงสัยจึงถามว่าโซมะว่ายน้ำไม่เป็นเหรอ ขณะทั้ง2 ถกเถียงกันน้ำก็ก่อตัวเป็นรูปปลาตัวใหญ่เข้าโจมตี จริงๆแล้วเป็นฝีมือของอาโก้ซึ่งยืนอยู่กลางลำธาร โซมะโกรธจัดจึงโจมตีเข้าใส่แม้ธาตุไฟจะอ่อนแอต่อธาตุน้ำก็ตาม อาโก้บังคับน้ำจับตัวโซมะโยนใส่กลางลำธารแล้วบอกให้โคกะรีบไปช่วยเพราะผู้ใช้ธาตุไฟเป็นนักว่ายน้ำชั้นเลว โคกะรีบกระโดดลงน้ำคว้าตัวโซมะขึ้นมาผิวน้ำได้เพียงเพื่อจะพบว่าข้างหน้าเป็นน้ำตกและทั้ง2ก็ตกน้ำตก จมลงไปใต้น้ำด้วยกัน โซมะฝันถึงพ่อที่อยู่ๆก็กลายเป็นเปลวเพลิงแล้วสลายไปจึงสะดุ้งตื่นกลางป่าตอนกลางคืน แล้วเจอกับโคกะที่ช่วยเขาไว้ ทั้ง2จึงตั้งใจจะไปให้ถึงจุดหมายให้ทันให้ได้แม้จะเสียเวลาไปเยอะก็ตาม ขณะโซะมะปีนเขาเห็นกลุ่มดาวกางเขนใต้จึงกล่าวว่านั่นเป็นกลุ่มดาวของพ่อเขา ตอนเด็กพ่อเขาถูกฆ่าโดยโซมะก็เห็นคนที่ฆ่าด้วย ตั้งแต่นั้นมาพ่อเขาก็ถูกเรียกว่าเซนต์ขี้แพ้ เวลาเหลือน้อยลงทุกที คู่โคกะกับโซมะเจอกำแพงน้ำแข็งที่ไม่ละลายมานับหมื่นปี และทั้งคู่จะต้องพังมันเท่านั้น ทั้งคู่ลองโจมตีแต่กำแพงไม่มีแม้ริ้วรอย ด้านยูนะกับริวโฮไปถึงยอดเขาสำเร็จ และอาโก้ก็บอกทั้งสองว่าคู่โซมะกับโคกะคงไม่มาแล้ว ด้านโซมะ ตัดสินใจจะสวมครอธแล้วใช้คอสโมทั้งหมดพังกำแพงน้ำแข็งแม้มันจะทำให้เขาไม่เหลือคอสโมเพื่อไปยังเส้นชัยแต่อย่างน้อยโคกะก็ยังไปถึงได้ ด้วยการเร่งพลังคอสโมถึงขีดจำกัดและโจมตีใส่กำแพงน้ำแข็งจึงพังลงในที่สุด โซมะบอกให้โคกะไปซะแล้วสลบไป เมื่อฟ้าใกล้สว่างขณะที่ทุกคนกังวลว่าโซมะกับโคกะจะมาไม่ทัน โคกะก็แบกโซมะขึ้นหลังมาถึงพอดี เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น อาจารย์เกคิจึงประกาศว่าทุกคนยกเว้นอาโก้ผ่านการทดสอบเพราะเขาจับตาดูการกระทำของทุกคนจึงรู้สิ่งที่อาโก้ได้ทำ และเพิ่มเติมว่ามีอยู่คนนึงมาถึงก่อนคนอื่นอย่างมาก มาเส้นทางที่แม้แต่silver saint ยังมาลำบาก เขาคืออีเดนแห่งกลุ่มดาวนายพราน

Flying fish Argo

Cosmo Delta

โซมะถูกกระแสน้ำจับ

โซมะทุ่มสุดตัว

Orion Eden

Thursday, April 26, 2012

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ไลฟ์ แอ็คชั่น ซีรีส์ ตอนที่ 9

ตอนที่ 9 ฟุตบอล กระจก และการดวลกันของสองยอดนักสืบ ม.ปลาย!


ยอดนักสืบจากคันไซ ฮัตโตริ เฮจิ ได้มาปรากฏตัวในตอนนี้ด้วย ชินอิจิเตะบอลใส่โจรวิ่งราว แน่นอนว่าโจรล้มแต่ที่คาดไม่ถึงคือลูกฟุตบอลกระเด็นเข้าบ้านคนแถวนั้นจนกระจกแตก ที่คาดไม่ถึงยิ่งกว่าคือมีเสียงกรีดร้องจากในบ้านนั้น ชินอิจิจึงเข้าไปดู เฮจิที่อยู่แถวนั้นพอดีก็เข้าไปด้วย และทั้ง 2 ก็พบว่ามีผู้หญิงนอนตายอยู่บนโซฟาโดยถูกเศษกระจกจากกรอบรูปเหนือโซฟาที่แตกทิ่มแทง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่านี่เป็นการฆาตกรรมแน่ๆเพราะมีคนที่มีดวงให้คนใกล้ตัวถึงฆาตถึง 2 คน แต่ฆาตกรใช้ทริคอะไรและ ชินอิจิหรือเฮจิจะไขคดีได้ก่อนกันกันแน่

Wednesday, April 25, 2012

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ไลฟ์ แอ็คชั่น ซีรีส์ ตอนที่ 8

ตอนที่ 8 แต่แค่ความจริงอย่างเดียว... จะชี้ความถูกต้องได้หรือเปล่า

 
รันถูกคนโรคจิต(ไม่ค่อย)แอบจับก้นบนรถเมล์ รันจึงบังคับชินอิจิให้ช่วยกันจับคนร้าย หลังจากวิ่งไล่ล่ากันไปทั่วก็จับคนร้ายได้ ขณะนั้นเองก็เจอตำรวจกำลังสืบคดีไฟช๊อตทำให้เครื่องช่วยหายใจของคนป่วยหยุดทำงาน โดยสงสัยว่าคนที่เฝ้าไข้มีส่วนทำให้ผู้ป่วยตายหรือไม่ จริงๆแล้วคดีนี้น่าจะเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่น่าจะเป็นคดีใดๆทั้งสิ้นนอกจากคนเฝ้าประมาทหรือเปล่าแต่ความเป็นจริงแล้วนี่กลับเป็นหนึ่งในคดีที่ซับซ้อนที่สุดในซีรี่ส์นี้ และเป็นหนึ่งในคดีที่เศร้าที่สุดด้วย

Monday, April 23, 2012

Saint Seiya Omega ตอนที่4

โคกะเดินทางออกจาก Palaestra เพื่อไปแซงทัวรี่ พึ่งออกมาก็สวนกับริวโฮ ลูกของชิริวกับชุนเร ริวโฮใช้น้ำขวางทางโคกะไว้และบอกโคกะว่ายังเร็วไปที่จะเดินทางเพราะโคกะยังไม่สามารถปลุกพลังแสงในตัวออกมาได้ โคกะจึงกลับมาเรียนต่อและได้พบไฮดร้า อิจิ เซนต์แห่งหมู่ดาวงู ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับแบร์ เกคิ ที่เป็นอาจารย์และอยู่รุ่นเดียวกับเซย่า ยังเรียนอยู่เพราะยังหาธาตุของตัวเองไม่เจอ และได้เจอกับริวโฮอีกครั้ง ริวโฮร่างกายไม่แข็งแรงจึงหยุดไปนานและพึ่งกลับมาเรียน

ในห้องเรียนซึ่งมีสระน้ำอยู่ นักเรียนยืนเรียงเป็นหน้ากระดาน อาจารย์สั่งให้ทุกคนสวมเกราะเฉพาะที่แขนเท่านั้น จากนั้นอาจารย์ก็ทำให้มีแท่งหินซึ่งมีความแข็งเทียบเท่าเกราะบรอนซ์ครอธผุดขึ้นมาแล้วให้นักเรียนฝึกการใช้ธาตุโดยเรียกธาตุออกมาโจมตีใส่แท่งหิน ทุกคนโจมตีใส่แต่หินไม่เป็นอะไร มีแต่ริวโฮซึ่งสามารถทำลายแท่งหินได้โดยการโจมตีครั้งเดียว อาจารย์ให้นักเรียนโจมตีใส่กันโดยให้ธาตุที่อ่อนแอกว่าอีกธาตุเป็นฝ่ายโจมตีเช่นน้ำจะอ่อนแอเมื่อสู้กับดิน(ยกเว้นแสงและความมืดที่เป็นกรณีพิเศษ 5 ธาตุจะมีการได้เปรียบ เสียเปรียบบางธาตุ) แต่เมื่อริวโฮใช้น้ำโจมตีใส่กำแพงดินของนักเรียนอีกคน กำแพงดินกลับพังทลาย ซึ่งอิจิอธิบายว่าแม้ธาตุจะแพ้ทางแต่หากมีคอสโม่ที่ทรงพลังพอก็ชนะอยู่ดี สมัยนี้ถ้าใช้ธาตุไม่เป็นก็ไร้ค่า

ตกดึกโคกะออกมาฝึกการใช้ธาตุ ริวโฮออกมาเจอและเกิดอาการไอ โคกะสงสัยจึงถามว่าร่างกายอ่อนแอขนาดนี้ทำไม่จึงอยากเป็นเซนต์ ริวโฮจึงอธิบายว่าเพื่อรักษาพ่อ(ชิริว) ที่สูญเสียประสาทสัมผัสทั้ง5 ไปในการต่อสู้ ที่ฝึกวิชากับพ่อก็ด้วยการสื่อสารกันผ่านคอสโม ริวโฮกล่าวว่าเมื่อก่อนพ่อเคยรักษาตาที่บอดด้วยการเร่งคอสโมถึงจุดสูงสุด เขาจึงเชื่อว่าถ้าคอสโมเขามากพอจะรักษาพ่อได้ แล้วอาจารย์ก็มาเจอทั้ง2 เข้าแล้วตักเตือนว่าทั้ง2ทำผิดกฏที่ออกมาข้างนอกกลางดึก ริวโฮจึงว่าเขาไม่เกี่ยว เห็นโคกะออกมาข้างนอกกลัวหนีไปเหมือนเมื่อเช้าอีกเลยออกมาดู อาจารย์เลยว่าโทษของการออกจากโรงเรียนคือไล่ออก โคกะชักเริ่มโมโหที่ริวโฮหาเรื่องให้เขา ริวโฮเสนออาจารย์ให้เขาสู้กับโคกะ ใครชนะจะได้ละเว้นโทษ

โคกะเริ่มโจมตีใส่ริวโฮก่อนแต่ริวโฮก็หลบได้สบายๆโดยอ่านการเคลื่อนไหวของคอสโม ริวโฮเริ่มใช้ธาตุน้ำโจมตีใส่โคกะจนโคกะเข้าใกล้ไม่ได้ แม้ฝ่าเข้าไปได้ครั้งหนึ่งก็ถูกป้องกันโดยโล่ของดราก้อนครอธที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาบรอนซ์ครอธ แม้โดนซัดล้มไปกี่ครั้งโคกะก็ไม่ยอมแพ้ และด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยซาโอริ ธาตุแสงจึงเปล่งออกมา โคกะซัดเข้าใส่ริวโฮด้วยหมัดลำแสงซึ่งแม้ริวโฮจะป้องกันด้วยโล่แต่ก็ถูกซัดกระเด็นไป ริวโฮยังลุกขึ้นมาได้แล้วว่าถ้าไม่มีโล่คงแย่ไปแล้ว และใช้พลังที่เหลือหมัดมังกรผงาดโรฮันและได้ชัยในที่สุด แล้วจึงรู้ความจริงว่าริวโฮสู้เพื่อให้โคกะใช้ธาตุแสงได้และต้องการที่จะพัฒนาคอสโมไปด้วยกัน อาจารย์เกคิก็มาช่วยไว้โดยว่าทั้งสองสู้กันได้ดีขนาดนี้ก็ยกโทษให้ทั้งสองเถอะ ริวโฮยังบอกโคกะว่าอีกไม่นานจะมีการแข่งขันต่อสู้ระหว่างเซนต์ ผู้ชนะจะได้พบอาเธน่า

โคกะพบกับริวโฮ

โคกะกับอิจิ

ริวโฮทำลายแท่งหิน

ดราก้อน ริวโฮ

หมัดลำแสงของเปกาซัส

หมัดมังกรผงาดโรฮัน

Sunday, April 22, 2012

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ไลฟ์ แอ็คชั่น ซีรีส์ ตอนที่ 7

ตอนที่ 7 โซโนโกะน่ะเหรอ ถูกลักพาตัว!?



ห้องที่7มีลูกโป่งสีแดงอยู่ในห้องและลูกโป่งก็ค่อยๆพองตัวๆใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนชินอิจิและรันจะถูกกดติดผนังอยู่แล้วจนชินอิจิไปเห็นที่ใส่รหัสฝังอยู่ในกำแพง คดีคราวนี้เป็นการลักพาตัว โนงุจิ ยูริ พี่สาวคนโตของบ้านโนงุจิโดยโซโนโกะที่อยู่กับยูริก็พลอยถูกลักพาตัวไปด้วย สิ่งที่ผู้ร้ายลักพาตัวต้องการคือเพชรมูลค่า1 พันล้านเยน วิธีส่งมอบคือการผูกกระเป๋าใส่เพชรไว้กับลูกโป่งโฆษณาบนดาดฟ้าแล้วปล่อยให้ลอย ทั้งตำรวจและพวกชินอิจิต่างจดจ้องไปที่กระเป๋าซึ่งลอยอยู่แต่ก็ไม่มีใครมาเอาไปแต่เมื่อนำลูกโป่งลงมาเพชรก็หายไปแล้ว ซ้ำร้ายเมื่อไปหาตัวยูริและโซโนโกะตามที่ตำแหน่งที่คนร้ายบอก มิกิซึ่งเป็นลูกคนรองก็ถูกฆาตกรรมซะอีก ใครเป็นฆาตกร? คนร้ายเอาเพชรไปได้อย่างไร? และชินอิจิจะสามารถใส่รหัสได้ก่อนที่ทั้ง2 จะถูกลูกโป่งดันจนขาดอากาศหายใจหรือไม่

Friday, April 20, 2012

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ไลฟ์ แอ็คชั่น ซีรีส์ ตอนที่6

ตอนที่6 ฉันจะไม่ยอมให้คนที่รักต้องตายเด็ดขาด

คดีในห้องนี้เกี่ยวกับยาพิษ โดยรันถูกเข็มพิษและเวลาบนแท่นก็เริ่มนับถอยหลังให้ชินอิจิใส่คำตอบภายใน5 นาที คดีเกิดในคลับคาบาเร่ย์ซึ่งโคโกโร่ไปเป็นประจำ และได้เล่นเกมกับอาจารย์คณิตศาสตร์ที่คลับโดยเกมจะมีสาวๆยืนเรียงกัน 20 คน ผู้เข้าเล่นเกมจะสามารถเลือกให้สาวๆหอมแก้มได้ครั้งล่ะไม่เกิน3คน ใครไปถึง สาวคนที่20ซึ่งคือโฮสเตสหมายเลข 1 นามคุมิได้ก่อนก็เป็นผู้ชนะ โดยระหว่างทางสาวแต่ละคนที่หอมแก้มจะเทไวน์ลงในภาชนะที่ทั้ง2คนถือไว้แล้วคุมิจะดื่มไวน์นั้น สิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงคือเมื่อคุมิดื่มไวน์เข้าไปกลับตายเพราะพิษ แล้วพิษมาจากไหนกันแน่

Thursday, April 19, 2012

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ไลฟ์ แอ็คชั่น ซีรีส์ ตอนที่5

ตอนที่ 5 วันที่ดื่มชาฝรั่งเป็นวันสุดท้าย

 
เหตุการณ์รักสามเส้าและชาฝรั่ง เมื่อคำถามในห้องที่5 คือวันไหนที่ดื่มชาฝรั่งเป็นครั้งสุดท้าย แม้แต่ชินอิจิก็ยังจำไม่ได้จนข้อมูลบนแท่นปรากฏวันที่นั้นจึงนึกได้ว่าเป็นวันที่เขา รัน และโซโนโกะไปบ้านผู้กำกับชื่อดัง นางาตะ อากิฮิโระ ซึ่งมีนักแสดงสาวที่เป็นกิ๊กอยู่ด้วย ขณะที่ซ้อมการแสดงภรรยาผู้กำกับก็มาจนเกิดการทะเลาะกันของ2 สาวจนผู้กำกับต้องห้ามศึกให้นั่งกินชากันก่อน แต่แล้วผู้กำกับกลับตายเพราะไซยาไนในชา ใครเป็นคนใส่ไซยาไนลงไปและทำได้อย่างไร ที่สำคัญกว่านั้นใครกันนะที่รู้ถึงขนาดที่ว่าชินอิจิดื่มชาฝรั่งครั้งสุดท้ายเมื่อไร!

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ไลฟ์ แอ็คชั่น ซีรีส์ ตอนที่ 4

ตอนที่4 สายใยที่แน่นแฟ้นแม้อยู่ห่างกัน




ในห้องที่4 มีชุดเจ้าสาวเป็นคำใบ้ ชินอิจิที่กำลังถูกลงโทษในเกมลงโทษของรันให้ทำตามที่ใครก็ตามขอทุกอย่าง จึงต้องไปช่วยโคโกโร่ที่บังเอิญโทรมาขอให้ไปช่วยพอดีแต่แทนที่จะให้ไปสืบสวนกลับเป็นการไปโชว์ตัวตามคำขอสาวๆในงานแต่งงานที่โคโกโร่ไปช่วย ระหว่างที่วิ่งวุ่นช่วยคนนั้น คนนี้ เพื่อนเจ้าสาวก็กลับตายซะนี่ ใครเป็นฆาตกรกันแน่นะ

Wednesday, April 18, 2012

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ไลฟ์ แอ็คชั่น ซีรีส์ ตอนที่ 3

ตอนที่ 3 สายใยที่เหมือนเป็นครอบครัว



คิซากิ เอริ แม่ของรันไปเป็นพยานในศาลให้กับไซโต้ เรกะ สาวโฮสต์ที่ โคโกโร่ รู้จัก เพราะเซฟในบาร์ที่เรกะทำงานถูกขโมยเงินไปและ เรกะเป็นผู้ต้องสงสัย แต่เรกะอ้างว่า ณ เวลาที่เกิดเหตุตนอยู่แถวโรงแรมม่านรูดและเห็น เอริอยู่กับชายคนหนึ่ง เรื่องที่เอริอยู่กับชายใดก็ไม่ทราบสร้างความตกตะลึงให้โคโกโร่และรันเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเอริก็ยอมรับว่าอยู่ที่โรงแรมม่านรูดจริงแต่ก็ไม่วายถูกเรกะสบประมาทจนเอริทำมือเป็นรูปปืนแล้วทำท่ายิงใส่เรกะ แต่แล้วเรกะกลับถูกกระสุนยิงเจาะหน้าผากจริงๆ กระสุนมาจากไหน และเอริอยู่กับใครกันแน่!

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ไลฟ์ แอ็คชั่น ซีรีส์ ตอนที่ 2

ตอนที่2 สายใยแห่งความเชื่อใจ




เป็นคดีฆาตกรรมพลังจิต โดยที่ห้องส่งรายการ “เดอะไทเคซึ” (ศึกท้าดวล) เป็นการดวลกันระหว่างวาชิมิ จิโร่ ผู้มีพลังจิต กับยอดนักสืบม.ปลาย คุโด้ ชินอิจิ ว่าจิโร่ใช้พลังจิดจริงๆหรือใช้กลลวง ซึ่งชินอิจิก็สามารถที่จะเผยว่าพลังจิตของจิโร่เป็นเพียงการหลอกลวง(หรือจะบอกว่าไม่ต้องใช้พลังจิตก็ทำได้ก็ได้) แต่แล้วก็มีการท้าทายให้ลองฆ่าพิธีกร ฮาราดะ ทากายูกิด้วยพลังจิต ปรากฏว่าทากายูกิกลับตายขึ้นมาจริงๆ! ที่จริงพลังจิตมีจริงๆหรือเปล่ากันแน่

Tuesday, April 17, 2012

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ไลฟ์ แอ็กชั่น ซีรี่ส์ ตอนที่1

ตอนที่ 1 สายใยที่ผูกกันด้วยกุญแจมือ






ชินอิจิ ตื่นขึ้นมาในห้องสีขาวโพลน และพบว่าตัวเองถูกผูกข้อมือกับรันด้วยกุญแจมือ มีโคโกโร่ สลบอยู่ใกล้ๆและมีจดหมายลึกลับที่อ้างว่าเป็นแฟนคลับของคุโด้ ชินอิจิ มีแท่นสีขาวอยู่กลางห้องซึ่งมีช่องให้ใส่รหัสอยู่ พร้อมคำใบ้เป็นวันที่ซึ่งเกิดคดีฆาตกรรมนางแบบ ซึ่งทั้งชินอิจิและรันบังเอิญต้องเข้าไปช่วยคลี่คลายคดี

Monday, April 16, 2012

TOWER HEIST ปล้นเสียดฟ้า บ้าเหนือเมฆ

เรื่องย่อ

เบน สติลเลอร์ และเอ็ดดี้ เมอร์ฟี่ย์ นำแสดงในหนังเรื่องใหม่ จอช โควัคส์ (สติลเลอร์)มีหน้าที่ดูแลคอนโดสุดหรูในย่านนิวยอร์ค โควัคส์เอาใจใส่ทุกอย่างเป็นอย่างดีจนดูเหมือนทุกอย่างอยู่ในความควบคุม จนวันหนึ่งโควัคส์จับความผิดสังเกตเกิดขึ้นและเข้าใจว่า อาร์เธอร์ ชอว์ นักธุรกิจผู้เชี่ยวชาญการลงทุนซึ่งพักอยู่ในpenthouse ถูกลักพาตัว แต่ที่จริงแล้วกลับเป็นเอฟบีไอจับกุมตัว ชอว์ด้วยข้อหาฉ้อโกง ที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดคือโควัคส์ฝากเงินบำนาญของพนักงานทุกคนในคอนโดให้ชอว์ช่วยเอาไปลงทุนและเงินทั้งหมดมีโอกาสสูญซึ่งทุกคนต่างโทษโควัคส์ในสิ่งที่เกิดขึ้น ชอว์ได้รับการประกันตัวภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องอยู่ในpenthouse เท่านั้น แรกๆโควัคส์ก็ยังระงับอารมณ์ได้จนเมื่อเพื่อนซึ่งเป็นพนักงานเปิดประตูของเขาจะกระโดดให้รถไฟชนเพราะเขาเอาเงินทั้งหมดที่มีให้ชอว์ไปลงทุน เขาจึงสูญเสียเงินทั้งหมดที่เก็บหอมรอมริบจากการเปิดประตูนับสิบปีมา ด้วยโทสะ โควัคส์จึงบุกไปที่ห้องของชอว์พร้อมพนักงานอีก 2 คนและทุบรถยนต์ที่วางไว้ในห้องจนทั้ง 3 ถูกไล่ออก ต่อมาโควัคส์ได้รู้จากเอฟบีไอสาวที่ทำคดีว่าคนร้ายมักซ่อนเงินไว้ใกล้ตัวเผื่อหลบหนี โควัคส์จึงรวบรวมพรรคพวกที่ถูกไล่ออก แขกที่ถูกไล่เพราะไม่มีค่าเช่า พนักงานที่มีความสามารถในการเปิดเซฟ โจรกระจอกที่เป็นคนรู้จัก(เอ็ดดี้ เมอร์ฟี่ย์) ร่วมมือกันฝ่าเข้าคอนโดที่มีคนรักษาความปลอดภัยอย่างดี อีกทั้งยังมีเอฟบีไปนั่งเฝ้าหน้า penthouse เพื่อเข้าไปขโมยเงินมาคืนพนักงานทั้งหมด

เปิดหนังเรื่องนี้มาดูเพราะคาดหวังว่าจะดูหนังตลกแต่มันไม่ตลก ยิ่งเบน สติลเลอร์ยิ่งทำหน้าเครียดตลอดเรื่องเพราะโดยบทหนังมันกดดันเขาตลอด ดังนั้นหากจะหาหนังตลกดูเรื่องนี้ก็ไม่ใช่หนังที่คุณกำลังตามหาอยู่ แต่ไม่ใช่ว่าหนังไม่ดี หนังมีคุณภาพในระดับที่ดี มีข้อคิด เป็นเรื่องของความไม่ยุติธรรมในชีวิตที่เห็นได้ทั่วๆไป นักลงทุนไม่ต้องรับผิดชอบอะไร นำเงินของคนที่ต้องทำงานอย่างหนักทั้งชีวิตไปลงทุนตามใจ จะกำไรหรือขาดทุนก็มิต้องรับผิดชอบอะไร แถมยังมีชีวิตที่หรูหรา ในขณะที่คนทำงานหนักกลับไม่เหลืออะไรเลย ถูกบีบคั้นจนต้องฆ่าตัวตาย บทสรุปของหนังก็ถือว่า happy ending ตามสมควรแม้จะไม่ถึงขนาดทุกคนมีความสุขแต่ก็เป็นการจบที่สมเหตุสมผล ขอแนะนำให้ดู

Saint Seiya Omega ตอนที่3

โซมะพาโคกะมาถึงกลางป่่าที่มีซากปรักหักพังของรูปปั้นกรีกกับสิ่งก่อสร้างอยู่และบอกว่ามาถึงแล้ว โคกะที่ไม่เห็นมีอะไรเลยจึงถามขึ้นว่าที่ไหนล่ะ ขณะนั้นก็มีลมพัดมาวูบหนึ่งและมีเงาของคนผู้หนึ่งปรากฏขึ้นแล้วกล่าวว่าหากโคกะมีคุณสมบัติพอ เส้นทางสู่Palaestra ก็จะเปิดขึ้น ผู้ที่ปรากฏตัวเป็นหญิงสาวสวมหน้ากากซึ่งแนะนำตัวเองว่าชื่อยูนะเป็นเซนต์แห่งกลุ่มดาวอินทรีย์(Aquila) แล้วเข้าจู่โจมโคกะ โดยขณะโจมตีก็กล่าวว่าไม่รู้สึกถึงคอสโมจากตัวโคกะเลย และถามว่า"คิดเหรอว่าจะเป็นเซนต์ได้" โคกะที่ฉุนขึ้นมาจึงว่าเขาต้องเป็นให้ได้และเกราะเปกาซัสก็สวมบนตัวโคกะ ชายผู้หนึ่งก็เดินมาและบอกให้ยูนะกลับมาได้และให้โคกะผ่านการทดสอบสามารถไป Palaestra ได้

Sunday, April 15, 2012

Saint Seiya Omega ตอนที่2


ระเบิดจากมาร์ส
เปิดตอนมาโคกะนอนหมดสติโดยมีไชน่านั่งอยู่ข้างๆและก้มหน้าลงเหนือตัวโคกะ เมื่อฟื้นคืนสติเห็นไชน่าโคกะก็เริ่มนึกย้อนหลังว่าตนเข้าไปชกใส่มาร์สแต่กลับไม่สามารถเปล่งคอสโมได้ดังที่ทำตอนทำลายเปลวเพลิงรอบตัวมาร์ส จึงถูกมาร์สกระแทกกลับไปและมาร์สก็ชิงตัวซาโอริไปได้สำเร็จ ก่อนจากไปยังได้ระเบิดบริเวณที่โคกะอยู่อย่างรุนแรง ไชน่าเห็นเช่นนั้นจึงเอาตัวเข้าบัง เมื่อโคกะระลึกความหลังถึงตรงนี้ ก็รำพึงกับไชน่าว่าเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย ไชน่าก็ได้แต่ปลอบว่าไม่ได้เป็นความผิดของโคกะจากนั้นก็ล้มไปให้เราได้เห็นว่าหลังของไชน่าเป็นแผลขนาดใหญ่จากแรงระเบิด ไชน่าจึงต้องนอนรักษาตัว ส่วนโคกะก็ตัดสินใจจะออกเดินทางไปช่วยซาโอริ(ที่ถูกจับตัวประจำ)

โซมะปรากฏตัว
ออกเดินทางได้ไม่นานขณะดูสร้อยคอคริสตัลก็มีชายหนุ่มเห็นแล้วทักว่าเป็นเซนต์เหมือนกันหรือ แล้วขอดูสร้อย ขณะที่โคกะถามว่าคนที่มาคือใครสร้อยก็ถูกแย่งชิงอย่างไม่รู้ตัว โคกะจึงพยายามแย่งคืนแต่ก็ถูกชกที่ท้องจนสลบ

Saturday, April 14, 2012

Saint Seiya Omega ตอนที่1

และแล้ว Saint Seiya ก็ได้กลับมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้โดยเนื้อเรื่องในภาคโอเมก้านี้จะเป็นแบบ original คือไม่ได้นำจากหนังสือการ์ตูนมาทำเป็น animation คาดว่าจะมีจำนวนตอนทั้งหมด 52 ตอน

เรื่องย่อตอนที่1

เปิดฉากมาอาเธน่าอยู่กับเด็กน้อยผมแดงคนหนึ่ง จากนั้นท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสีและมาร์สก็ได้ปรากฏตัวขึ้นโจมตีใส่อาเธน่า แม้อาเธน่าจะหลบแต่ก็โดนเข้าที่ต้นแขนซ้าย ผิวส่วนที่โดนเปลี่ยนจากสีเนื้อเป็นลักษณะคล้ายอวกาศที่มีดวงดาวเต็มไปหมด และแล้วเซย่าผู้สวมเกราะซาจิทาเรียสก็บินเข้ามาปกป้องอาเธน่าและสู้กับมาร์ส ทั้งสองต่อสู้กันอย่างสูสีและแล้วก็ถูกตัดฉากไปยังป่าแห่งหนึ่ง โดยที่เราไม่ทราบถึงผลการต่อสู้ครั้งนั้น ในป่านั้นไชน่ากำลังฝึกการต่อสู้ให้โคกะซึ่งก็คือเด็กที่อาเธน่าเคยปกป้อง เพื่อให้โคกะเป็นsaint แต่โคกะต่อต้านการเป็น saint อย่างมาก วันหนึ่งขณะโคกะนั่งเหม่อมองดูทะเล  ซาโอริ(อาเธน่า) ก็เข้าไปคุยด้วยและได้มอบสร้อยคอคริสตัลให้ แล้วในขณะนั้นเองมาร์สที่ได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ได้ปรากฏตัวเพื่อชิงตัวอาเธน่าไป อาเธน่าซึ่งถูกผลของการโจมตีของมาร์สครั้งก่อนไม่สามารถใช้คอสโมได้ ส่วนไชน่าที่เข้ามาช่วยก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ โคกะที่พยายามโจมตีมาร์สสุดชีวิตแต่เขายังไม่สามารถใช้คอสโมได้จึงไม่แม้แต่จะฝ่าเปลวเพลิงรอบตัวมาร์สเพื่อเข้าใกล้ ขณะนั้นเองสร้อยคอคริสตัลที่อาเธน่าให้ก็เปล่งแสงขึ้นและกลายเป็นเกราะเปกาซัส เมื่อโคกะสวมเกราะก็เห็นภาพของเซย่าบอกให้โคกะระเบิดพลังคอสโม โคกะก็ปล่อยหมัดดาวตกเปกาซัสเข้าใส่มาร์สจนสามารถทำลายเปลวเพลิงรอบตัวมาร์สได้

ถ้าถามว่า สนุกไหมก็ต้องบอกว่าดูตอนแรกก็ถือว่าไม่เลวร้าย เนือเรื่องพอใช้ได้แต่ตอนเดียวก็ยังบอกอะไรไม่ได้มาก สิ่งที่กวนใจมากๆกลับเป็นคุณภาพของงานที่เผากันตั้งแต่ตอนแรกเลย เกราะที่แตกมาๆหายๆบ้าง ฉายภาพนิ่งนานๆบ้าง แอบตัดรายละเอียดเวลามุมภาพเป็นการฉายไกลๆบ้าง ก็ต้องติดตามกันไปว่าคุณภาพจะดีขึ้นไหม

เซย่าต่อสู้กับมาร์ส

โคกะฝึกกับไชน่า


บาดแผลของซาโอริ


ซาโอริมอบคลอสเปกาซัสให้โคกะ


เปกาซัส โคกะ ปรากฏตัว!

อ่าน Saint Seiya Omega ตอนที่ 2

Tuesday, April 10, 2012

สถาบันสถาปนา


ชื่อภาษาอังกฤษว่า The Foundation เขียนโดยไอแซค อสิมอฟ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวิทยาศาสตร์ที่เริ่มพิมออกมาตั้งแต่ปี 2494 และมีภาคต่อมาอีก2 ภาคคือFoundation and Empire ในปี 2495และ Second Foundation ในปี2496 หลังจากนั้นไอแซค อสิมอฟได้หยุดเขียนไปเกือย30ปีจึงได้มีภาค4 ภาค5 ออกมาและมีการเขียนอีก2 ภาคซึ่งเป็นเรื่องราวก่อน The Foundation

ก่อนที่จะได้อ่านเรื่องนี้ ใจมีอคติว่าเป็นนิยายวิทยาศาสตร์ที่เขียนตั้งแต่ก่อนผมเกิด ดังนั้นเนื้อเรื่องจึงควรเป็นอะไรที่ไม่ทันสมัยจึงไม่คิดจะอ่าน จนมีคนเอามาให้ลองอ่าน(ถึงขนาดยกมาให้ถึงที่) เลยลองเอามาอ่านดู จึงพบว่าเรื่องราวสนุกมากจนวางไม่ลง อ่านจบได้อย่างรวดเร็วและยืมเล่ม 2 กับ3 มาอ่านต่อทีเดียว แน่นอนว่าส่วนของเทคโนโลยีย่อมมีบางส่วนที่ดูล้าสมัย ถ้าจะพูดให้ถูกน่าจะเรียกว่าเทคโนโลยีหลายอย่างค่อนข้างร่วมสมัยแต่ไม่ได้ล้ำหน้า แต่ก็มีจินตนาการหลายอย่างที่ล้ำหน้ากว่ายุคของเรา จุดสำคัญคือเนื้อหาหลักๆไม่ได้ล้าสมัยเลยและผมเชื่อว่าแม้จะผ่านไปอีกนานแค่ไหนก็ยังไม่เก่าเพราะเหตุการณ์ที่อสิมอฟมองนั้นล้ำหน้าไปถึงยุคมนุษย์อยู่ไปทั่วกาแล็คซี่!

เหตุการณ์ในสถาบันสถาปนากล่าวถึงยุคอนาคตที่มนุษย์อยู่กันทั่วกาแล็คซี่ มีดาวทรานทอเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรโดยมีจักรวรรดิดูแล และแล้วก็มีนักคณิตศาสตร์ผู้หนึ่งนามว่าฮาริ เซลดอน ซึ่งคิดค้นวิชาอนาคตประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นวิชาที่สามารถทำนายอนาคตได้หากมีกลุ่มประชากรตัวอย่างมากพอภายใต้ข้อสันนิษฐานว่าพฤติกรรมของคนหมู่มากสามารถพยากรณ์ได้ ยิ่งมีประชากรมากเท่าไรยิ่งเที่ยงตรงเท่านั้น เมื่อใช้ประชากรทั้งกาแล็คซี่มาคำนวณจึงได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและผลนั้นคือจักรวรรดิจะล่มสลายในอีกไม่นาย หลังจากนั้นจะมียุคมืดซึ่งมนุษย์ไร้อารยธรรมถึง3หมื่นปี การพยากรณ์นี้สร้างความไม่พอใจให้กับจักรวรรดิมากจนมีการจับกุมตัวฮาริ เซลดอนขึ้น อย่างไรก็ดีฮาริ เซลดอนก็ได้เสนอแผนซึ่งจะช่วยลดยุคมืดลงเหลือเพียงหนึ่งพันปีได้โดยการสร้างสถาบันสถาปนาซึ่งจะจัดทำเอ็นไซโคลปีเดียรวบรวมความรู้ทั้งหมดไว้ไม่ให้สาบสูญไป จะเชื่อหรือไม่ก็ดีจักรวรรดิก็ยังกังวลต่อคำทำนายจึงได้มีการเนรเทศให้ฮาริ เซลดอนและคนของเขาไปทำเอ็นไซโคลปีเดียที่สุดขอบกาแล็คซี่ แต่นี่เป็นไปตามที่ฮาริ เซลดอนได้คาดการณ์ไว้และแผนของเขาที่จะทำให้ยุคมืดจบลงในพันปีจึงได้เริ่มขึ้น

นิยายนี้จัดอยู่ในหมวดหมู่วิทยาศาสตร์ก็จริงแต่ด้วยความเฉียบแหลมในการเขียนเรื่องราวและการเดินเรื่องอย่างรวดเร็วจนไม่รู้สึกเบื่อจึงคิดว่าแม้จะนำไปวางไว้ในหมวดหมู่พวกผจญภัยก็ไม่ผิดอะไร หรือจะนำไปไว้ในกลุ่มสืบสวนก็ยังได้ เล่ม1 เป็นเล่มที่ขอแนะนำว่าพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เล่ม2 เรื่องแรกยังสนุก ส่วนเรื่อง2 ผมว่าอืดไปหน่อย เล่ม3 ยังคงอืดอยู่แต่ช่วงท้ายมีการชิงไหว ชิงพริบ กันทำให้โดยรวมยังสนุกกว่าเล่ม2

Sunday, April 8, 2012

ขบวนการนักสืบ NEET

ด้วยว่าสำนักพิมพ์ Bliss จะปิดตัวลง(ตอนนี้คงปิดไปแล้ว) เลยไปหาหนังสือน่าอ่านที่พลาดไปก่อนจะไม่มีโอกาสได้ซื้อแล้ว หนึ่งในหนังสือที่ได้มาคือ "ขบวนการนักสืบ NEET" แต่ก็หาซื้อได้แต่เล่ม 2กับ3 ได้มาแบบลด 50% จะว่าคุ้มก็คุ้ม เสียดายตรงที่หาเล่มแรกไม่ได้และจะไม่ได้อ่านเล่มต่ออีกต่างหาก แต่ด้วยความพยายามก็สามารถไปยืมเล่ม1 จากเพื่อนมาได้ เลยเอามารีวิวให้ได้อ่านกัน ถึงจะหาซื้อกันไม่ได้แล้วก็เถอะ :)

NEET นั้นย่อมาจาก Not in Education, Employment or Training ว่าง่ายๆก็คือไม่ได้เรียน ไม่ได้ทำงาน  ฝึกงานหรือไม่ได้ทำอะไรเลยนั่นเอง ตัวเอกของเรื่องชื่อว่านารุมิ เป็นนักเรียนมัธยมปลายที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ชอบหลบไปนอนบนดาดฟ้าเหมือนตัวเอกการ์ตูนหลายๆเรื่องและได้ไปเจอกับอายากะที่อยู่ชมรมจัดสวน ซึ่งได้เข้ามาทำความสนิทสนมกับนารุมิ แล้วพาพระเอกไปยังร้านราเม็งฮานามารุ ซึ่งด้านหลังเป็นที่ซ่องสุมของพวก NEET มีทั้งNEET แมงดา มวย ทหารและยากูซ่า ยิ่งกว่านั้นบนชั้น3 ของตึกเดียวกันเป็นที่ทำการของสำนักงานนักสืบ NEET ซึ่งดำเนินการโดยอลิซ เด็กสาวหลีกหนีสังคมซึ่งอ้าง ข้างๆคูๆว่า ตัว E ของ Employment คือลูกจ้าง ส่วนเธอเป็นผู้ประกอบการจึงยังถือว่าเป็น NEET อยู่เหตุการณ์ดูจะดำเนินไปอย่างมีความสุขดีจนกระทั่งมีสมาชิกชาวNEET เป็นเหยื่อของยา "แองเจิล ฟิกซ์" นักสืบNEET และเหล่า NEET จึงต้องร่วมมือกันหาตัวการของเรื่องนี้

ถึงจะขึ้นชื่อว่านักสืบแต่อย่าเอาไปปนกับคินดะอิจิหรือโคนันเพราะเป็นนักสืบคนละแนวกัน อลิซจะไม่ออกจากห้องแต่ใช้วิธีค้นข้อมูลทางคอมพิวเตอร์และใช้เหล่าNEET ในการรวบรวมข้อมูล ข่าวสาร(ซึ่งก็ทำได้ดีเสียด้วย) เนื้อเรื่องไม่ได้ให้เรามาเดาว่าคนร้ายคือใครแต่จะเป็นการดำเนินเรื่องไปให้เรารับรู้เรื่องราวเสียมากกว่า โดยหลักแล้วอยากบอกว่าไม่ได้เน้นเรื่องสืบสวนอะไรมากมายแต่เป็นเรื่องของพัฒนาการของตัวเอกและความเชื่อของแต่ละตัวละครในการดำเนินชีวิตมากกว่า สำหรับเรื่องนี้ผมแนะนำให้อ่านสำหรับคนที่ชอบอ่านเรื่องการ์ตูน หรือนิยายเบาๆ นะครับ 

Friday, April 6, 2012

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ไลฟ์ แอ็คชั่น ซีรีส์:13 ห้องแห่งความตาย



ประเภท:ซีรี่ญี่ปุ่น
จำนวนตอน:13 ตอน

รีวิว
โคนันถูกนำเสนอในแบบซีรี่คนแสดงจริงแต่แน่นอนว่าไม่ได้นำเสนอเหตุการณ์ในช่วงที่ได้กลายเป็นนักสืบจิ๋วไปแล้วแต่จะไปจับเอาเหตุการณ์ในช่วงที่เป็นคุโด้ ชินอิจิ(คิดว่าคงหาตัวแสดงเด็กที่แสดงสมจริงได้ยาก) ตอนเริ่มเรื่องชินอิจิ รันและโคโกโร่ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าทั้ง3 ถูกขังอยู่ในห้องที่ไม่มีทั้งประตูและหน้าต่าง ที่กลางห้องมีแท่นอยู่แท่นหนึ่ง ที่แท่นมีวันที่แสดงอยู่และมีช่องว่างให้ใส่ตัวอักษร วันที่ที่แสดงเป็นวันที่ที่เกี่ยวข้องกับการไขคดีของชินอิจิ โดยชินอิจิต้องคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้นเพื่อหาคำที่เหมาะสมใส่ลงไปในคดี ระหว่างที่ชินอิจิระลึกถึงเหตุการณ์เราก็จะได้รับรู้เหตุการณ์ไปด้วย เมื่อใส่คำที่ถูกต้องประตูสู่ห้องถัดไปก็จะเปิดออก ทั้ง3 ต้องฟันฝ่าห้องต่างๆที่มีบททดสอบหนักหนาขึ้นเรื่อยๆ และต้องคิดไปด้วยว่าพวกเขามาอยู่ในห้องนี้ได้อย่างไร? และเพราะอะไร?

รายชื่อตอนต่างๆมีดังนี้


ตอนที่ชื่อตอน
1สายใยที่ผูกกันด้วยกุญแจมือ
2สายใยแห่งความเชื่อใจ
3สายใยที่เหมือนเป็นครอบครัว
4สายใยที่แน่นแฟ้นแม้อยู่ห่างกัน
5วันที่ดื่มชาฝรั่งเป็นวันสุดท้าย
6ฉันจะไม่ยอมให้คนที่รักต้องตายเด็ดขาด
7โซโนโกะน่ะเหรอ ถูกลักพาตัว!?
8แต่แค่ความจริงอย่างเดียว... จะชี้ความถูกต้องได้หรือเปล่า
9ฟุตบอล กระจก และการดวลกันของสองยอดนักสืบ ม.ปลาย!
10วีดีโอแชท และปริศนาที่มีระยะทางกับเวลาเป็นตัวแปรสำคัญ!
11ภัตตาคารหรู ความในใจของชินอิจิ และการฆาตกรรมในลิฟท์!
12ระเบิด การฆาตกรรม และคำสารภาพของ 3 ฆาตกร!
13ลมหายใจเย็นยะเยียบ ความตายของรัน และการไขปริศนา 13 ห้องครั้งสุดท้าย!


คดีที่อยู่ในซีรี่นี้เท่าที่ทราบเป็นคดีใหม่ทั้งหมดยกเว้นเพียงคดีเดียวคือคดีที่11ซึ่งนำมาจากการ์ตูน ทริกค่อนข้างตรงไปตรงมาเพราะแต่ละตอนยาวครึ่งชั่วโมงคดีจึงไม่ได้ซับซ้อนมาก ส่วนใหญ่ดูสักครึ่งตอนก็พอจะเดาได้แล้วว่าทำได้อย่างไร โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นการนำการ์ตูนมาทำเป็นซีรีคนแสดงที่ทำได้ดีเรื่องหนึ่งทีเดียว ตอนนี้มีการนำเข้ามาขายในประเทศไทยโดยค่าย TIGA

Wednesday, April 4, 2012

Sexy voice and Robo




ประเภท:ซีรี่ญี่ปุ่น
ความยาว:11 ตอน

รีวิว
เรื่อง ของฮายาชิ นิโกะ เด็กสาว ม.ต้น ผู้มีความสามารถพิเศษในการฟังเสียงจากที่ไกลๆ แยกแยะเสียงต่างๆ และเลียนเสียง ได้ แต่กลับกลัวที่ตัวเองจะต้องต่างกับคนอื่นจึงปิดความเป็นตัวของตัวเองไว้มาจับคู่กับซุโด้ อิชิโระ หรือฉายา โรโบ หนุ่มโอตาคุหุ่นยนต์ที่แม้จะโตแล้วแต่ก็ไม่ยอมละทิ้งความเป็นตัวของตัวเอง ยังรักหุ่นยนต์ ความรัก ความถูกต้องอย่างเหนียวแน่น คนสองคนที่ไม่ควรจะได้มาเจอกันกลับต้องมาร่วมมือกันเมื่อนิโกะได้เจอกับเหตุการณ์ผู้ชายถูกทำร้ายร่างกายแล้ววิ่งหนีมา ด้วยความอยากรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นอย่างไรจึงโทรไป telephone club เพื่อหาคนไปดูด้วยกันจึงได้คุยกับนายโรโบ แล้วเรื่องราวการผจญภัยของคนสองคนจึงเริ่มขึ้น

แม้คนทั้งสองจะได้เจอกับเหตุการณ์แปลกๆมากมายทั้งสายลับ การปล้น นักฆ่า แต่โทนเรื่องไม่ได้มีความรุนแรงแต่เน้นสายสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ครอบครัว คนแปลกหน้าที่มาพบกัน และเรื่องราวต่างๆก็ได้ทำให้นิโกะได้เรียนรู้ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ตัวซีรี่จะเป็นแนวค่อยๆดำเนินเรื่องไป ชวนหลับมากในบางตอนโดยเฉพาะตอนที่9และ10 ที่เป็นเรื่องต่อกันเรื่องเดียวในซีรี่นี้ที่ช้าเป็นพิเศษ แต่หลายๆตอนก็น่าติดตาม ตอนที่ชอบเป็นพิเศษคือตอนที่7 ที่แสดงความรัก ความสัมพันธ์ระหว่างกันได้เป็นอย่างดี